Op-ed

ถึงเวลาแล้วที่แรงงานทำงานบ้านทั่วภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกจะมีสิทธิที่ตนสมควรได้รับ

ด้วยสิทธิและการคุ้มครองทางสังคมที่ไม่ครอบคลุม แรงงานทำงานบ้านมักถูกทอดทิ้งในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด 19 ให้ปกป้องดูแลตัวเอง เนื่องในโอกาสวันแรงงานทำงานบ้านสากล ชิโฮโกะ อาซาดะ มิยากาวะผู้อำนวยการองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ให้เหตุผลว่าทำไมจึงถึงเวลาที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง

Comment | Bangkok, Thailand | 16 June 2022
ด้วยการระบาดใหญ่ของโควิด 19 ที่ค่อยๆ ลดลง ถึงเวลาแล้วที่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกจะต้องให้การคุ้มครองทางสังคมที่ดีขึ้นแก่แรงงานทำงานบ้าน รวมถึงรับรองและออกกฎหมายคุ้มครองแรงงานทำงานบ้านอย่างเต็มที่ ให้เท่าเทียมกับแรงงานอื่นๆ

รายงานของ ไอแอลโอ ที่เผยแพร่ในวันนี้ (16 มิถุนายน) เรื่อง “การทำให้สิทธิประกันสังคมเป็นจริงสำหรับแรงงานทำงานบ้าน” พบว่ามากกว่าสองในสามของแรงงานทำงานบ้านในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์การประกันสังคมเลยแม้แต่ประเภทเดียว

ในขณะเดียวกัน สามในห้าของจำนวนแรงงานทำงานบ้านในภูมิภาคนี้ยังไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายแรงงานและกว่าร้อยละ 70 ไม่มีกฎหมายกำหนดชั่วโมงการทำงาน

แรงงานทำงานบ้านส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเหตุนึ้เป็นสาเหตุสำคัญที่ไม่ได้รับการคุ้มครองสิทธิแรงงานและการคุ้มครองทางสังคม ผู้หญิงทำงานบ้านและดูแลบ้านมาเป็นเวลานานโดยไม่ได้รับค่าจ้างหรือการยอมรับ ทุกวันนี้ผู้หญิงที่ทำงานเป็นแรงงานทำงานบ้านส่วนใหญ่เป็นแรงงานข้ามชาติและแรงงานย้ายถิ่นภายในประเทศ อุปสรรคในการปรับปรุงสิทธิแรงงานทำงานบ้านนั้นหยั่งรากลึกในระบบสังคมชายเป็นใหญ่และระบบชนชั้นซึ่งประเมินค่างานของผู้หญิงต่ำเกินไป และมองว่าบ้านเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ ไม่ควรกำหนดให้เป็นสถานที่ทำงาน การทำลายอุปสรรคเหล่านี้อาจเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับผู้ที่ยึดมั่นในคตินิยมดังกล่าว

การให้สัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศว่าด้วยแรงงานทำงานบ้าน ค.ศ. 2011 (ฉบับที่ 189) และอนุสัญญาว่าด้วยความรุนแรงและการคุกคามในโลกแห่งการทำงาน ค.ศ. 2019 (ฉบับที่ 190) จะนำไปสู่การสร้างบรรทัดฐานใหม่ที่งานดูแลและงานบ้านได้รับการให้เกียรติ และแรงงานหญิงมีคุณค่าและความปลอดภัยในที่ทำงาน แม้ว่าอนุสัญญาฯ ว่าด้วยแรงงานทำงานบ้านได้รับการรับรองมา 11 ปีแล้วในวันนี้  และร้อยละ 52 ของจำนวนแรงงานทำงานบ้านทั่วโลกอยู่ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก แต่ในภูมิภาคนี้ มีเพียงประเทศฟิลิปปินส์เท่านั้นที่ให้สัตยาบันอนุสัญญาฉบับนี้ ขณะเดียวกัน ก็มีเพียงประเทศฟิจิเท่านั้นที่ให้สัตยาบันอนุสัญญาว่าด้วยความรุนแรงและการคุกคามในโลกแห่งการทำงาน เราสามารถทำให้ดีกว่านี้ได้

การระบาดใหญ่ของโควิด 19 เผยให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำที่มีอยู่ และยังนำไปสู่การยอมรับว่าแรงงานที่ถูกประเมินค่าต่ำและได้รับค่าจ้างที่ต่ำ ซึ่งรวมถึงคนเก็บขยะ แรงงานที่ทำงานด้านการดูแล แรงงานทำงานบ้าน และแรงงานในภาคขนส่งที่ยอมเสี่ยงชีวิตของตนเพื่อให้สังคมเดินหน้าต่อไปในช่วงปิดเมืองนั้น เป็นกลุ่มแรงงานที่ “สำคัญ” อย่างแท้จริง

ขณะที่ทุกคนในครอบครัวต้องทำงานและเรียนจากที่บ้านในช่วงปิดเมือง แรงงานทำงานบ้านดูแลให้ครัวเรือนเดินไปอย่างราบรื่น หลายคนอยู่ต่อเพื่อทำงาน แม้ว่าภาระงานและชั่วโมงการทำงานจะเพิ่มขึ้น ต้องแยกตัวออกจากครอบครัว เพื่อนฝูงและการได้รับบริการความช่วยเหลือสนับสนุน

แม้กระนั้น แรงงานทำงานบ้านยังโดนไล่ออกเพราะนายจ้างกังวลว่าจะติดเชื้อโควิดจากแรงงานทำงานบ้าน นายจ้างส่วนใหญ่ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย และยิ่งไปกว่านั้น แรงงานทำงานบ้านพบว่าตนเองไม่ได้รับการคุ้มครองจากโครงการความช่วยเหลือทางสังคมในช่วงโควิด-19 แรงงานข้ามชาติที่ทำงานบ้านหลายคนตกค้าง เนื่องจากการปิดพรมแดนระหว่างประเทศทำให้ไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้ ส่งผลให้ครอบครัวที่พึ่งพาเงินส่งกลับของแรงงานทำงานบ้านประสบปัญหาทุกข์ยากเดือดร้อนในทางเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีความท้ายทายต่างๆ แต่ก็พบความคืบหน้าอยู่บ้าง ตัวอย่างเช่น แรงงานทำงานบ้านในมาเลเซียปัจจุบันมีสิทธิขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนกองทุนประกันสังคม และในประเทศไทย ก็กำลังมีการทบทวนกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานทำงานบ้านเพื่อรับรองการมีสภาพการทำงานที่ดีสำหรับแรงงานทำงานบ้าน

แรงงานทำงานบ้านทั่วภูมิภาคมีการจัดตั้งกลุ่มของตนเองขึ้นเพื่อผลักดันสิทธิของตน ไอแอลโอ ได้สนับสนุนกลุ่มแรงงานทำงานบ้านมาเป็นเวลานานเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ เรียนรู้จากกันและกัน และผลักดันเพื่อให้เกิดการคุ้มครองทางกฎหมาย นอกจากนี้ ไอแอลโอ ยังทำงานเพื่อให้แรงงานทำงานบ้านสามารถเข้าถึงบริการด้านกฎหมาย ความช่วยเหลือทางสังคมและการฝึกอบรม ไม่ว่าแรงงานจะอยู่ในประเทศใด กลุ่มแรงงานทำงานบ้านทั้งหมดทุกกลุ่ม เรียกร้องให้มีการยอมรับงานบ้านและให้มีการออกกฎหมายเพื่อคุ้มครองสภาพการทำงานที่เหมาะสม

รัฐบาลประเทศต่างๆ ในภูมิภาคสามารถและควรดำเนินการเพื่อเปลี่ยนทัศนคติ ปรับปรุงกฎหมาย และแนวปฏิบัติ ทุกครัวเรือนที่จ้างแรงงานทำงานบ้านต้องแน่ใจว่าจ่ายค่าจ้างขั้นต่ำเป็นอย่างน้อย และค่าล่วงเวลา ขึ้นทะเบียนแรงงานให้เป็นผู้ประกันตนในกองทุนประกันสังคมและประกันที่มีอยู่ แรงงานทำงานที่ปลอดภัยและปราศจากความรุนแรงและการคุกคาม มีชั่วโมงการทำงานและวันหยุดตามปกติ งานที่แรงงานทำงานบ้านทำต้องได้รับการยอมรับโดยการรับรองและปฏิบัติตามกรอบกฎหมายเพื่อประกันสิทธิแรงงานทำงานบ้านและให้การคุ้มครองทางสังคมซึ่งจะสร้างความมั่นคงในระยะยาวแก่แรงงานทำงานบ้าน ครอบครัวและชุมชนของแรงงาน